ขอนแก่นเอาจริง สั่งทุกอำเภอดำเนินการใครเผาป่าหรือพื้นที่ทางการเกษตรมีความผิดดำเนินคดีจากเบาไปหาหนัก เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน พร้อมรณรงค์หยุดเผาในพื้นที่การเกษตรและสาธิตการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อทดแทนการเผา

เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2567 นายจิรศักดิ์ ศรีหามาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดกิจกรรมรณรงค์หยุดเผาในพื้นที่การเกษตรและสาธิตการจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อทดแทนการเผา ที่แปลงนาเกษตรกรในพื้นที่อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น เนื่องจากในช่วงฤดูหนาวของทุกปี จังหวัดขอนแก่นจะประสบปัญหาหมอกควัน ฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน และเกิดมลพิษทางอากาศเป็นประจำทุกปี


โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเผาในที่โล่ง ทั้งในพื้นที่ป่าและพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะการเผาตอซังในนาข้าว การเผาอ้อยก่อนการเก็บเกี่ยว ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก รวมทั้งยังส่งผลเสียต่อการทำอาชีพการเกษตรโดยตรง คือทำให้ดินเสื่อมโทรม ขาดความอุดมสมบูรณ์ ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ผลผลิตที่ได้รับต่ำกว่าที่ควรจะเป็น จังหวัดขอนแก่นจึงได้ให้ความสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหา จัดงานวันรณรงค์หยุดเผาฯ เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่ มีการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อทดแทนการเผา เมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรไปแล้ว จะเหลือเศษพืช ตอซัง ฟางข้าว และเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรจำนวนมาก หากเผาทิ้งก็จะเป็นการเผาปุ๋ย เผาเงิน เผาสิ่งที่มีประโยชน์ทิ้งไป เพื่อเป็นการปรับปรุงบำรุงดิน คืนความอุดมสมบูรณ์ของดิน เกษตรกรสามารถปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และเกิดความยั่งยืน


รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าว ผู้ว่าราชจังหวัดขอนแก่น ได้เล็งเห็นปัญหาหมอกควัน ฝุ่นละอองที่เกินมาตรฐาน มลพิษทางอากาศ รวมทั้งการเผาในพื้นที่การเกษตร การเผาตอซังในนาข้าวและการเผาอ้อยก่อนการเก็บเกี่ยว ได้กำหนดเป็นนโยบายให้ทุกอำเภอในจังหวัดขอนแก่นปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน คือการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร หากพบผู้ฝ่าฝืนและกระทำผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมายจากเบาไปหาหนัก ดังนั้นทางจังหวัดจึงขอความร่วมมือเกษตรกรหยุดการเผาในพื้นที่การเกษตร โดยการรณรงค์/ส่งเสริมให้หยุดผาในพื้นที่ทางการเกษตรและสร้างมูลค่าจากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อทดแทนการเผา รวมทั้งมีการไถกลบพืชปุ๋ยสด เช่น ปอเทือง

ซึ่งถือเป็นการปรับปรุงบำรุงดินที่เกษตรกรสามารถปฏิบัติได้ ไม่มีขั้นตอนยุ่งยาก นอกจากจะเป็นการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ เพิ่มปริมาณธาตุอาหารให้กับดินแล้ว ยังช่วยให้การซึมซับและการดูดใช้น้ำของพืชมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้การใช้ดินเป็นไปอย่างคุ้มค่า เป็นพื้นฐานของการพัฒนาการเกษตร เชื่อมโยงไปถึงคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งต่อตัวเกษตรกรเอง ผู้บริโภค และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน