X
ย้ายผอ.รพ.ขอนแก่น

ขอนแก่น บุคลากร รพ.ขก.รวมตัวให้กำลังใจ “หมอชาญชัย” หลังมีคำสั่งย้ายด่วน

ขอนแก่น–บุคลากร รพ.ขก.เสียขวัญ สธ.เซ็นย้ายด่วน “หมอชาญชัย” ไปสำนักปลัดฯ และให้ “หมอเกรียงศักดิ์” มาแทน วิจารณ์แรง “คนทุจริตทำให้ รพ.พัฒนาขนาดนี้ได้ยังไง?”

วันนี้ (2 มิ.ย.63) ที่ห้องประชุมจำลอง มุ่งการดี รพ.ขอนแก่น กลุ่มบุคลากรโรงพยาบาล ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล เภสัชกร และบุคลากรด้านสาธารณสุขจำนวนกว่า 500 คน ได้มารวมตัวเพื่อแสดงพลังสนับสนุน นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผอ.รพ.ขอนแก่น  หลังมีบัตรสนเท่ห์ร้องเรียนไปยังผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขว่า นพ.ชาญชัย มีพฤติกรรมทุจริตเรียกรับเงินจำนวน 5% จากบริษัทจำหน่ายยาเข้าบัญชีกองทุนพัฒนาโรงพยาบาลขอนแก่น ในช่วงเดือนเมษายน 61-ตุลาคม 61 ซึ่งถือว่าเป็นความผิดวินัยร้ายแรง

กระทั่งกระทรวงสาธารณสุข มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และต่อมามีคำสั่งด่วนลงวันที่ 1 มิถุนายน 2563 ย้าย นพ.ชาญชัย ไปปฏิบัติราชการที่กองบริหารการสาธารณสุข สำนักปลัดงานกระทรวงสาธารณสุข และให้ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผอ.รพ.พระปกเกล้า จ.จันทบุรี มาปฏิบัติหน้าที่ ผอ.รพ.ขอนแก่น แทน  สร้างความตระหนกในกลุ่มบุคลากร รพ.ขอนแก่น และมีการวิพากษ์วิจารย์อย่างกว้างขวาง

แพทย์หญิง กนกวรรณ ศรีรักษา ประธานองค์กรแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่น ให้สัมภาษณ์ว่า คำสั่งย้าย ผอ.รพ.ครั้งนี้ คิดว่า จะส่งผลกระทบอันแรกก็คือเรื่องของความรู้สึก สัมผัสได้ก็คือเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่เสียขวัญและกำลังใจ แต่จริงๆ คำสั่งย้ายนี้ก็ไม่เกินความคาดหมายขององค์กรแพทย์ เราก็ทราบอยู่ว่า เป้าหมายของการกระทำครั้งนี้คือการย้าย ผอ. ออกนอกพื้นที่

แต่สิ่งที่เราไม่คาดคิดก็คือว่าคำสั่งย้ายออกมาเร็วมาก ในตอนแรกคิดว่าจะมีการสอบสวนให้เสร็จสิ้นก่อน แต่ในเรื่องการทำงานก็คงไม่ได้มีผลกระทบอะไร เพราะเราทุกคนยังคงทำงานตามหน้าที่อยู่เหมือนเดิม แต่ในส่วนตัวก็เตรียมที่จะลาออกจากตำแหน่งงานบริหารใน รพ.กลับมาทำหน้าที่แพทย์เท่านั้น

นอกจากนั้นคิดว่าคำสั่งย้าย ผอ. ส่งผลกระทบต่อเรื่องการบริจาคเงินของภาคเอกชน  ซึ่งก็มีการประกาศออกมาแล้วว่า จะขอชะลอการบริจาคเงินในการสร้างตึกดูแลผู้ป่วย แล้วก็อีกส่วนก็คือ การสร้างหอพักให้พยาบาล ซึ่งทางผู้บริจาคขอถอนตัวทั้งสองรายการ รวมมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ โครงการนี้ได้มีการพูดคุยกันถึงขั้นตอนการออกแบบและกระบวนการทำ EIA แล้ว

ทราบกันดีว่า เรื่องการโยกย้ายข้าราชการถือเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่ผิดปกติสำหรับคำสั่งย้าย ผอ.รพ.ครั้งนี้คือ ข้อกล่าวหาที่ระบุในเหตุผลของการย้ายว่า เป็นการฉ้อราษฎร์บังหลวงจึงจำเป็นต้องย้ายออก เพื่อไม่ให้ขัดขวางกระบวนการสอบสวน ซึ่งเรามองว่า ถ้าเป็นคนที่ทุจริตคงไม่สามารถพัฒนาโรงพยาบาลมาได้จนถึงขนาดนี้ ข้อกล่าวหานี้รุนแรงเกินไปหรือเปล่า แล้วที่ผ่านมา ผอ.ชาญชัยก็ไม่เคยมีท่าทีว่า ขัดขวางกระบวนการสอบสวนหรือว่ายุ่งกับพยานหลักฐานใดๆ แม้กิจกรรมที่องค์กรแพทย์จัดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการยื่นหนังสือถึงท่านผู้ว่าราชการจังหวัด หรือการจัดกิจกรรมให้กำลังใจ ท่าน ผอ.ก็ไม่เคยมาสั่งการใดๆ ทั้งสิ้น

เรื่องผิดปกติเรื่องที่สองก็คือ คนที่ย้ายมาแทนก็ยังเป็นคนเดิมจากเมื่อปี 61 ก็เลยเกิดคำถามว่า ทั้งกระทรวงไม่มีหมอคนอื่นที่จะปฏิบัติหน้าที่นี้ได้แล้วหรือ อีกอย่างหนึ่งคือ คนที่มาใหม่ก็มีความเกี่ยวข้องกับคณะกรรมการที่ตรวจสอบ เราก็ไม่แน่ใจว่า ในช่วงที่ท่านดำรงตำแหน่งนี้ มันจะมีผลกระทบกับกระบวนการตรวจสอบของคุณหมอชาญชัยหรือไม่ อย่างไร แต่อย่างไรก็ดี องค์กรเราไม่ได้ขัดขวางกระบวนการสอบสวน แต่ขอให้มีการสอบที่เป็นธรรม การโยกย้ายผู้บริหารก็ขอให้โปร่งใส และเป็นธรรม

ด้าน นพ.ชาญชัย ได้กล่าวเปิดใจกับที่ประชุมว่า ส่วนตนมีความภาคภูมิใจมากที่ได้มาเป็น ผอ.รพ.ขอนแก่น รู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่า ได้ดูแลประชาชนจำนวนมาก และขอให้บุคลากรโรงพยาบาลทำงานต่อไป ไม่ว่าวิกฤติโควิดรอบ 2 จะมาหรือไม่ ที่ผ่านมาเห็นว่า รพ. มีความก้าวหน้า มีการผ่าตัดหัวใจ การดูแลคนไข้ระดับปฐมภูมิได้ผลดี จนกลายเป็นต้นแบบ “ขอนแก่นโมเดล” มีศูนย์มะเร็งเต้านมครบวงจร ประชาชนเข้าถึงการรักษาได้มากขึ้น วิกฤติครั้งนี้ตนได้รับกำลังใจจากทุกท่าน ยืนยันเรื่องกองทุนพัฒนา รพ. กระทำขึ้นถูกต้องตามกฎหมาย ช่วยให้สามารถจัดหาอุปกรณ์เครื่องมือรักษาคนไข้ได้หลายรายการ

หลังจากนั้น บุคลากร รพ.ขอนแก่น ร่วมกันร้องเพลงและมอบดอกไม้ให้กำลังใจ นพ.ชาญชัย ก่อนที่ นพ.ชาญชัย จะให้สัมภาษณ์เปิดใจกับสื่อมวลชนว่า

“ในข้อหาที่กล่าวว่า มีการข่มขู่พยานต้องขอยืนยันว่า ไม่มีนะครับ ผมไม่เคยข่มขู่ใคร ผมยังทราบไม่หมดเลยว่า มีใครเป็นพยานบ้าง ทราบเพียงว่ามีทั้งหมด 11 คนรวมผมด้วย เวลาที่กรรมการเขาเรียกไปสอบก็ไม่ได้แจ้งผม คงต้องถามพยานว่า ถูกข่มขู่หรือเปล่า

ตอนนี้ผมก็พร้อมที่จะไปรายงานตัวในที่ทำงานใหม่ในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ แม้ว่าคำสั่งย้ายครั้งนี้จะไม่ชอบธรรม ซึ่งผมก็ได้เรียกร้องตามกระบวนการทางราชการ ยินดีให้มีการตรวจสอบแต่ที่อยากจะขอคือ ขอคนที่จะมาตรวจสอบให้เป็นผู้ที่มีความเป็นกลาง พิจารณาพยานหลักฐานอย่างรอบด้าน

สิ่งที่กังวลใจตอนนี้คือว่า ข้อมูลข่าวสารที่ออกไปจะทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่า รพ.ขอนแก่นมีความไม่โปร่งใสในเรื่องเงินบริจาค ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ขอกราบเรียนพี่น้องประชาชนว่า ยังสามารถบริจาคให้ทางโรงพยาบาลได้ตลอดเวลา เพราะทางโรงพยาบาลก็ยังขาดอุปกรณ์เครื่องมืออยู่มาก เงินที่ได้รับบริจาคมาในช่วงสถานการณ์โควิดกว่า 50 ล้านบาท ก็ได้นำไปใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ในการจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้ใหม่ๆ จัดสร้างห้องความดันลบรับผู้ป่วยเข้ารักษาได้ทันท่วงที  ยืนยันว่า ที่ผ่านมาทำงานอย่างถูกต้อง มีบัญชีรับจ่าย ไม่เคยเรียกรับผลประโยชน์จากบริษัทยา หรือการรับบริจาคจากประชาชนแต่อย่างใด” ผอ.รพ.ขอนแก่น กล่าว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ทีมข่าว77ขอนแก่น

ทีมข่าว77ขอนแก่น

ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่น