ขอนแก่น–ประธานชมรมสหกรณ์ครูขอนแก่นเผยไม่เคยเห็นหนังสือรับสภาพหนี้ 431 ล้าน ร้องให้เปิดเผยเพื่อความโปร่งใส พร้อมเป็นห่วงคดีที่จะหมดอายุความในเดือน มี.ค.นี้
ดร.วิศร์ อัครสันตติกุล ประธานชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ได้ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ณ สำนักงานชมรมฯ ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น
โดยที่ประชุมได้พูดคุยถึงการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสหกรณ์ฯ ปี 2562 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ซึ่งทางชมรมฯ ได้ออกแถลงการณ์เชิญชวนสมาชิกสหกรณ์เข้าร่วมรับฟังการชี้แจงและการอภิปราย และติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานติดตามเงินที่หายไปจากบัญชีออมทรัพย์ของสหกรณ์ฯ จำนวน 431 ล้านบาท จนต้องมีการแจ้งความเอาผิดกับ นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ อดีตผู้จัดการสหกรณ์ฯ นายนพรัตน์ สร้างนานอก และ นายสมศักดิ์ โคตรวงศ์ ซึ่งเป็นกรรมการสหกรณ์ฯ เมื่อปี 2554
ที่ประชุมชมรมฯ ยังได้พูดคุยถึงประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการให้สัมภาษณ์ของ ดร.อนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นว่า เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา นายเอกราช ช่างเหลา ได้เดินทางเซ็นหนังสือรับสภาพหนี้สหกรณ์ฯ จำนวน 431 ล้าน โดยนำหลักทรัพย์เป็นที่ดินเปล่าไม่มีสิ่งก่อสร้าง 10 แปลงมาค้ำประกัน เป็นมูลค่า 169 ล้านบาท พร้อมกับมีเงื่อนไขชำระให้แล้วเสร็จทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 6.75 ในวันที่ 27 ธ.ค. 2563 โดยมาเซ็นรับเพียงผู้เดียว ซึ่งประธานชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ทางชมรมฯ และสมาชิกไม่มีผู้ใดได้เห็นเอกสารดังกล่าวเลยว่ามีการจัดทำกันอย่างไร มีเนื้อหาสาระและเงื่อนไขอย่างไร ซึ่งเกรงว่าจะไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของชมรมฯ และสมาชิก และจะก่อให้เกิดความเสียหายก็จะต้องมีการคัดค้านกันอย่างเต็มที่ และหากมีความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นก็จะไม่พ้นความรับผิดชอบของคณะกรรมการแต่อย่างใด จึงควรที่จะเปิดเผยให้สมาชิกได้ทราบโดยด่วน เพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้
นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงคดีความเอาผิดผู้เกี่ยวข้องกรณียักยอกเงินของสหกรณ์ฯ 431 ล้านบาท และมีการแต่งตั้งทนายความเพื่อดำเนินคดี แต่พบว่า คดีมีความล่าช้าอย่างมากและไม่เป็นไปตามที่สหกรณ์ฯ แถลงให้สมาชิกรับทราบ ทั้งนี้ชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นได้แสดงความกังวลว่า จะเกิดความล่าช้าจนขาดอายุความในเดือน มี.ค.63 และทำให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก ซึ่งทางชมรมฯ ก็จะหาแนวทางฟ้องร้องคดีด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย แต่จะต้องขอทราบเหตุผลของความล่าช้าในการดำเนินคดีของสหกรณ์ฯ ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสหกรณ์ฯ ปี 2562 ที่จะถึงนี้ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
