ขอนแก่น – เขื่อนอุบลรัตน์น้ำลดระดับมีความลึกเฉลี่ย 2 เมตรเศษ เกิดสันดอนขึ้นหลายแห่ง รวมถึงโบถส์และหมู่บ้านที่จมอยู่ใต้น้ำโผล่ให้เห็น ขณะที่อาชีพประมงกำลังระส่ำหนัก
นายสมพงษ์ มหาวังษ์ นายอำเภออุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายประมุข ฤาแก้วมา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดขอนแก่น (เขื่อนอุบลรัตน์) ได้เดินทางด้วยเรือเร็วเพื่อออกสำรวจปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ โดยเริ่มจากท้ายเขื่อนช่วงหมู่บ้านภูคำเบ้า หาดบางแสนสอง พบว่า ระดับน้ำได้ลดลงจำนวนมาก มีตอโผล่ขึ้นมากระจัดกระจาย เกิดสันดอนหลายแห่ง ทำให้พนักงานขับเรือต้องขับด้วยความระมัดระวัง เกรงไปชนตอไม้และสันดอน โดยมีชาวบ้านที่ทำอาชีพประมงวางข่ายและยกยอหาปลาในเขื่อนมีให้เห็นเบาบาง
จากนั้นคณะได้สำรวจเส้นทางออกไปทางด้านหน้าเขื่อนอุบลรัตน์ พบว่า ระดับน้ำลดต่ำลงจากระดับเดิมกว่า 3 เมตร ทำให้สามารถมองเปรียบเทียบพื้นสันเขื่อนและประตูระบายน้ำเห็นได้อย่างชัดเจน พร้อมกันนี้ได้สอบถามชาวบ้านที่ออกมาหาปลาในเขตจับปลาของเขื่อนอุบลรัตน์ ต่างพากันกล่าวว่า ช่วงนี้หาปลาได้ยาก ส่วนมากจะเป็นปลานิลตัวละประมาณ 1 กิโลกรัมครึ่ง แต่ได้น้อยมาก หลังจากที่วางข่ายไว้ 3 วันที่แล้วจึงค่อยมาเก็บกู้ พบว่าได้ปลาไม่กี่ตัว ส่วนมากชาวบ้านที่เคยวางข่ายคนละเส้น สองเส้น แต่ตอนนี้คนหนึ่งจะวางข่ายมากว่าห้าเส้น เนื่องจากปลามีจำนวนน้อยลงมาก
ขณะเดียวกันเมื่อนั่งเรือเร็วออกเดินทางไปทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่างอำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น และ อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู พบว่าสภาพโดยรอบไม่ต่างกันเท่าใดนัก เพราะทั้งสันดอน ตอไม้ หรือต้นไม้ที่ยืนต้นตาย ต่างโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำจำนวนมาก อีกทั้งยังมีวัดที่เก่าแก่ คือวัดบ้านโคกใหญ่ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู ซากอุโบสถได้โผล่ขึ้นมาเนื่องจากระดับน้ำลดต่ำมาก มองเห็นซุ้มประตูทางเข้าโบสถ์ จำนวน 3 ซุ้มฐานของพระประธานโดยมีร่องรอยการก่อสร้างด้วยอิฐถือปูน จนสามารถลงจากเรือไปยืนได้ อีกทั้งยังมียอดใบเสมาที่กำลังปริ่มน้ำมองให้เห็นได้ชัดเจน จากการคาดคะเนระดับน้ำอยู่ที่ความลึกประมาณสองเมตรเศษ คาดว่าปลายเดือนมีนาคม ผู้คนสามารถนำรถเข้าไปดูร่องรอยของหมู่บ้านได้ ถ้าหากยังไม่มีฝนตกลงมา
จากการสรุปสถานการณ์น้ำเขื่อนอุบลรัตน์ของสำนักงานชลประทานที่ 6 เขื่อนอุบลรัตน์มีความจุเก็บกัก 2,431 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำปัจจุบัน 477.13 ล้าน ลบ.ม. (คิดเป็น 19.62%) น้ำใช้การได้104.54 ล้าน ลบ.ม.(คิดเป็น -5.65%) มีการระบายน้ำวันละ 500,000 ลบ.ม. เพื่อการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศน์ในลำน้ำพองเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
