ขอนแก่น – ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 1 สั่งสอบข้อเท็จจริงอาหารกลางวันเด็กรร.อนุบาลขอนแก่น งบประมาณมาณเทอมละกว่า 7.6 ล้านบาทให้ทราบผลใน 7 วัน หลังมีคำสั่งย้าย ผอ. กำชับทุกโรงเรียนยึดเมนูตาม Thai school lunch เผยมีโรงเรียน 81 แห่ง ยังไม่ได้งบอาหารกลางวันแม้จะเปิดเทอมมาแล้วกว่าหนึ่งเดือน
สืบเนื่องจากกรณีนายดนุพล ชุมชนสัมพันธ์ ผู้ปกครองนักเรียน ชั้น ป.1 รร.อนุบาลขอนแก่น พร้อมเพื่อนผู้ปกครองได้เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อขอให้ตรวจสอบคุณภาพอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนว่า มีคุณภาพครบตามหลักโภชนาการหรือไม่นั้น พร้อมแนบหลักฐานภาพถ่ายอาหารกลางวันของบุตรซึ่งมีลักษณะคล้ายข้าวคลุกเศษเนื้อไก่ ไม่มีผัก หรือผลไม้ใดๆ จนเป็นผลให้ สพป. ขอนแก่น เขต 1 มีคำสั่งให้ ดร.อภิชาติ นาเลาห์ ผู้อำนวยการโรงเรียน มาช่วยราชการที่ สพป.ขอนแก่น เขต 1 ตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย. โดยให้มีผลภายใน 7 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือให้มาช่วยราชการ
วันนี้ ดร.ภูมิพัทร เรืองแหล่ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ขอนแก่น เขต 1 แถลงข่าวพร้อมผู้บริหารโรงเรียน นักโภชนาการ และ จนท.สาธารณสุขว่า เรื่องนี้ได้ตั้งคณะ กรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยจะให้รายงานผลภายใน 7 วัน จะพิจารณาทั้งเรื่องการบริหารจัดการและคุณภาพอาหารที่แจกให้กับเด็ก หากพบความผิดก็จะสั่งลงโทษตามสมควรแก่กรณี ทั้งนี้ได้กำชับให้ทุกโรงเรียนจัดอาหารตามโปรแกรม Thai school lunch เพื่อให้เด็กๆ ได้รับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะและมีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ต้องให้รับประทานไข่ 2-3 ฟอง/สัปดาห์ รับประทานปลา 1 ครั้ง/สัปดาห์ เนื้อ 2 ครั้ง/สัปดาห์ ผลไม้ 3 ครั้ง/สัปดาห์ เป็นต้น
จากการสอบถามพบว่า ผู้ประกอบการจัดทำอาหารกลางวันสำหรับนักเรียน ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 3,603 คน ในปัจจุบันเป็นผู้ที่ชนะการประกวดราคาจ้างเหมาจัดทำอาหารกลางวันให้นักเรียน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โดยการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) งบประมาณ 7,601,040 บาท โดยกระทรวงศึกษาธิการได้โอนงบประมาณผ่านกระทรวงมหาดไทยตามนโยบายกระจายอำนาจ โดยกระทรวงศึกษาธิการให้งบประมาณคิดเป็นรายหัวๆ ละ 20 บาทต่อวัน ในขณะที่ผู้ประกอบการที่ชนะการประมูลด้วยราคา 20 บาท ทั้งนี้หลังเกิดเรื่องทาง ร.ร. ได้เรียกผู้ประกอบการมาประชุมชี้แจงด่วนในวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบคุณภาพอาหารกลางวันเด็กให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น หากผู้ประกอบการยังไม่ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงการผลิตอาหาร ก็จะดำเนินการสั่งยกเลิกสัญญาการทำอาหารภายใน 2 สัปดาห์
“ในส่วนการจัดซื้อจัดจ้างใช้วิธี e-bidding เพราะงบประมาณเกิน 5 ล้าน เท่าที่ผมดูข้อมูลจาก TOR พบว่า บางเจ้าที่เสนอราคามา แต่ไม่ได้รับการพิจารณา สอบถามทาง ร.ร. ก็แจ้งว่า ในเรื่องระเบียบ e-bidding จะต้องพิจารณาเจ้าที่เสนอราคาต่ำสุด ถ้าเป็นคุณภาพของอาหารกับการสร้างอาคาร จะเป็นคนละเรื่องกัน นี่เป็นข้อจำกัดของระเบียบ” ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 1 กล่าว
แต่ทั้งนี้ตนอยากให้เรื่องนี้เป็นโอกาสในการแก้ปัญหาการโอนงบประมาณกับโรงเรียน เพราะขณะนี้ในพื้นที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ขอนแก่น เขต 1 มีโรงเรียน 156 แห่งในจำนวนนี้ได้รับงบประมาณอาหารกลางวันแล้ว 75 แห่ง แต่อีก 81 แห่งยังไม่ได้รับโอนงบประมาณแม้ว่าจะเปิดภาคการศึกษาแล้ว ทางส่วนกลางโอนเงินมาให้เร็วหรือช้า โอนมาในงวดเดียวกันหรือไม่ หรือโอนมาแล้วแต่ยังติดอยู่ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งเป็นผู้ดูแลงบประมาณค่า อาหารของโรงเรียน ประเด็นนี้เป็นเรื่องสำคัญเพราะหลายโรงเรียนต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเอง หาเงินมาสำรองจ่ายก่อน เช่น จัดงานทอดผ้าป่า หรือขอรับการสนับสนุนจากผู้มีอุปการคุณ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดซ้ำซากในทุกปี
“ผมได้กำชับให้ทุกโรงเรียนยึดถือเมนูตาม Thai school lunch แต่ว่าแต่ละ ร.ร. สามารถไปบริหารจัดการเองได้ เช่น ปลา ก็อาจจะใช้ปลาทูหรือปลาในท้องถิ่นแทนได้ และควรมีกรรมการสถาน ศึกษา ตัวแทนผู้ปกครอง ฝ่ายการสาธารณสุข และนักโภชนาการ ควรมีส่วนร่วมในการดูแลเมนูอาหารให้เด็ก งบประมาณที่ให้ 20 บาท/หัว/คน ถามว่าพอไหม ก็ตอบว่า ต้องทำให้ได้ เพราะเป็นนโยบายที่ใช้มา 4-5 ปีแล้ว หลายโรงเรียนก็สามารถทำได้ดี ทั้ง ผอ.ทั้งครูก็พยายามจัดให้เด็กได้ทานให้ดี”
ขณะที่เมนูอาหารที่ถูกผู้ปกครองร้องเรียนว่าเป็นข้าวคลุกกับเศษไก่ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา จากการตรวจสอบพบว่า เป็นเมนูข้าวไก่ทอดและน้ำซุป ซึ่งเป็นอาหารสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ 2 โดยผู้บริหารโรงเรียนอธิบายว่าเป็นอาหารสำหรับเด็กเล็กจึงได้ฉีกไก่เป็นชิ้นเล็กๆ คลุกกับข้าว เพื่อให้เด็กๆ รับประทานได้ง่าย นอกจากนั้นยังมีขนมโดนัทหรือผลไม้ซึ่งเก็บไว้ให้นักเรียนรับประทานกับนมในช่วงบ่าย เพราะเด็กบางคนจะทานแต่ขนมโดยไม่ทานข้าว จึงต้องแยกเวลาจัดให้รับประทาน
