ขอนแก่น–สมาชิกสหกรณ์ครูฯ เดินสายยื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบผู้รับผิดชอบ 4 ราย กรณีเงินหาย 400 ล้าน หากผิดจริงต้องดำเนินคดีทั้งทางแพ่ง อาญา และ วินัย
บ่ายวันนี้ (20 พ.ย.62) ที่สำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดขอนแก่น ผู้แทนชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นกว่า 20 คน นำโดย ดร.วิศร์ อัครสันตติกุล ประธานชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดขอนแก่น ได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดขอนแก่น เพื่อให้มีการตรวจสอบการทุจริตและประพฤติมิชอบในหน่วยงาน กรณีเงินหายไปจากบัญชีธนาคารของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด โดยมีตัวแทนเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จังหวัดขอนแก่น มารับหนังสือพร้อมแจ้งว่า ทางสำนักงานฯ จะรับเรื่องไว้เพื่อการตรวจสอบและเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณา ซึ่งผลจะเป็นประการใดจะแจ้งไปยังประธานชมรมฯ ต่อไป
หลังจากยื่นหนังสือที่ ป.ป.ช. แล้ว ผุ้แทนชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นทั้งหมดได้เดินทางไปยื่นหนังสือแก่อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 4 หรือ ดีเอสไอ โดยมีตัวแทนมารับเรื่องและแจ้งว่า ได้รับเรื่องแล้วและจะนำเสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อดำเนินการต่อไป ซึ่งผุ้แทนสมาชิกชมรมฯ ต่างพอใจที่ จนท. ที่รับเรื่องต่างก็ให้กำลังใจสมาชิกชมรมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูฯ ที่สนใจและตั้งใจที่จะตรวจสอบและปกป้องสิทธิของตนเอง จากนั้นทางคณะได้เดินทางไปยื่นเรื่องที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่นและสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน จ.ขอนแก่น อีกด้วย
โดยประธานชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า มวลสมาชิกรู้สึกไม่มั่นใจเรื่องการตรวจสอบว่าอาจจะไม่กระจ่างชัด เพราะเป็นข้อมูลที่ค่อนข้างซับซ้อน จึงต้องยื่นหนังสือไปยังหลายหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ได้ลงมาตรวจสอบ ทั้ง ป.ป.ช. สตง. ดีเอสไอ และ ศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้เกิดความกระจ่างแก่สมาชิกที่มีความสงสัยว่า เงินได้หายไปจริงหรือไม่ และใครมีส่วนรับผิดชอบ ใครเกี่ยวข้อง และ จะทำอย่างไรให้เงินที่หายไปดังกล่าวได้กลับคืนสู่สหกรณ์
ที่สำคัญในการยื่นหนังสือครั้งนี้ ทาง ชมรมฯ มีข้อมูลหลักฐานมอบให้แก่ทางหน่วยงานต่างๆ อย่างชัดเจน ซึ่งแสดงถึงพฤติการณ์ที่น่าสงสัย การปฏิบัติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่การจัดซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลมาจำหน่ายก็ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสหกรณ์ การนำเงินไปฝากธนาคารไทยพาณิชย์ที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 2553 มีเงินหมุนเวียนฝากเข้ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท มีการถอนเงินออกไปหลายครั้ง แต่เงินไม่กลับเข้าสู่ระบบของสหกรณ์ จนสุดท้ายเหลือเงินในบัญชีเพียง 7 หมื่นบาทเศษ ส่งผลให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้รับความเสียหาย จึงอยากให้หน่วยงานตรวจสอบถึงบุคคลที่รับผิดชอบดำเนินการเรื่องเงินทั้งหมดในบัญชี จำนวน 4 คน หากพบว่า มีการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ ขอให้มีการดำเนินการทั้งทางแพ่ง ทางอาญา และทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
