เกษตรกรในจังหวัดระยอง พื้นที่นอกเขตชลประทาน กำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ ขณะที่ประปาหมู่บ้าน ขาดแคลนน้ำดิบ เนื่องจากฝนทิ้งช่วง ส่วนในเขตชลประทาน ปริมาณน้ำยังเพียงพอถึงต้นปีหน้า
ชาวนาในพื้นที่ตำบลชากบก อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ต้องจำใจหว่านเมล็ดข้าวบนผืนนาแทนการหว่านในน้ำเหมือนเช่น ปกติเนื่องจากฝนทิ้งช่วงไม่ตกต้องตามฤดูกาล ส่งผลให้เมื่อเมล็ดข้าวเติบโตเป็นต้นอ่อน ก็จะมีวัชพืชขึ้นมาแย่งน้ำและปุ๋ย จนต้องคอยมานั่งถอนออกทีละต้น เพื่อให้ได้ผลผลิต
นางซิว สุวรรณพิทักษ์ อายุ64 ปี ชาวนา บอกว่า ปีนี้ ฝนทิ้งช่วงนานมาก แต่จะไม่ทำนาก็ไม่มีข้าวกิน อีกทั้งลงทุนจ้างรถมาไถที่นาไปแล้ว หากไม่ตัดสินใจหว่านก็จะขาดทุนทันที เมื่อไถแล้วฝนไม่ตก ก็จำใจต้องหว่านบนผืนนาที่แห้งไม่มีน้ำ เพื่อเสี่ยงรอฝนตกลงมา แต่ฝนก็ไม่ตกน้ำในคลองที่เคยใช้สูบเข้านา ก็แห้งขอดมีปริมาณน้อยมาก หากสูบเข้านา ต้องใช้เวลาสูบติดต่อกันหลายวัน ก็จะเป็นการแย่งน้ำจากชาวสวน จึงทำไม่ได้หากฝนไม่ตกอีก ก็จำต้องปล่อยให้นาข้าวแห้งตาย
นายพานิช ยมหา กำนันตำบลชากบก กล่าวว่า น้ำประปา ของหมู่บ้าน ที่มีแหล่งน้ำดิบแห่งเดียวคือ อ่างเก็บน้ำเขางวงช้าง ที่ตั้งอยู่ด้านบนยอดเขา ปัจจุบัน มีปริมาณน้ำเหลือเพียง3เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง ส่งผลให้น้ำดิบไม่เพียงพอผลิตน้ำประปา เทศบาลตำบลชากบก ต้องบรรทุกน้ำจากแหล่งอื่นมาช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ที่ผ่านมา ชาวบ้านต่างพากัน หาช่องทางเพื่อร้องขอให้ธรรมชาติกลับคืนเป็นปกติ ทั้งการบนบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และการรื้อฟื้นพิธีกรรมการแห่นางแมว ที่เป็นพิธีโบราณ ทำทุกครั้งที่ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ซึ่งทุกวิถีทางที่ได้ทำแล้วแม้จะไม่ได้ผลที่สมดังตั้งใจ แต่ก็ทำให้เกิดความผ่อนคลาย หายเครียด หายกังวล ได้ความสมัครสมานสามัคคี
ผู้สื่อข่าวรายงาน เพิ่มเติมว่า ปัญหา พื้นที่การขาดแคลนน้ำ ในจังหวัดระยอง กำลังทวีความรุนแรงในภาคเกษตรกรเฉพาะกลุ่มที่อยู่นอกพื้นที่เขตชลประทาน ซึ่งจังหวัดได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าดูแลให้การช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนแล้ว ส่วนในพื้นที่ชลประทานทั้งหมดรวมทั้งในภาคอุตสาหกรรม ยังมีน้ำดิบจากอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล อ่างคอลงใหญ่ อ่างประแสร์ ที่บริหารจัดการไว้แล้ว ล่าสุดปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้งหมด เหลือ 50 เปอร์เซ็นต์ หากฝนไม่ตกต่อเนื่อง ก็จะใช้น้ำได้ถึงเมษายนปีหน้า
