เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2564 เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมอินทรวิชิต ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดระยอง นายอนันต์ นาคนิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วย นายแพทย์ประภาส ผูกดวง รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง และนายฉัตรนุชัย สมบัติศรี ปลัดเทศบาล รักษาการนายกเทศมนตรีนครระยอง ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของจังหวัดระยอง
นายอนันต์ นาคนิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า วันนี้นับเป็นเวลา 16 วันแล้วที่จังหวัดระยองไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 584 ราย เป็นคนไทย 549 ราย ต่างชาติ 35 ราย เสียชีวิต 1 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 583 ราย ล่าสุดไม่มีผู้ป่วยที่รักษาในโรงพยาบาลแล้ว โดยมีการตรวจเชิงรุก 40,772 ราย มีการกักตัวเพื่อดูอาการ 12 คน ส่วนมาตรการผ่อนคลายยังคงเดิม สหรับในส่วนของวัคซีนโควิดของจังหวัดระยองที่จะได้รับนั้น ได้มีการตั้งคณะบริหารจัดการวัคซีนเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับ การขนส่ง การเก็บรักษา การบริหารจัดการ และการซ้อมแผนการฉีดวัคซีนและการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรกลุ่มต่างๆ ไว้เรียบร้อย และพร้อมจะฉีดเข็มแรกได้ภายใน 2 วันหลังได้รับวัคซีน
รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวก็จะมีตลอดทั้งเดือนมีนาคมนี้ เริ่มจากในวันที่ 5-6 มีนาคม 2564 นี้ ในงาน “เดิน กิน ชิม เที่ยว” ถนนยมจินดา เขตเทศบาลนครระยอง ที่จะจัดทุกศุกร์และเสาร์ต้นเดือน มีร้านค้ากว่า 300 ร้านที่จะมาร่วมกิจกรรมจำหน่ายอาหารพื้นถิ่น สินค้าพื้นเมือง และการแสดงของเยาวชน ซึ่งที่ผ่านมามีผู้มาเที่ยวกว่า 8,000 คน สามารถสร้างรายได้สูงถึง 800,000 บาท
นายแพทย์ประภาส ผูกดวง รองนายแพทย์สาธารณสุข เปิดเผยว่า แม้ว่าจะไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่และไม่มีผู้ป่วยในโรงพยาบาลแล้ว แต่ทุกคนอย่านิ่งนอนใจ เพราะจังหวัดระยองก็เป็นจังหวัดที่มีประชากรเคลื่อนไหว มีการเข้าออกในพื้นที่อยู่เป็นประจำ ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ พร้อมทั้งขอให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด รักษาระยะห่าง สวมใส่หน้ากากอนามัย ตรวจวัดอุณหภูมิ ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่เสี่ยง แออัด อากาศไม่ถ่ายเท และใช้แอปหมอชนะหรือเช็คอินไทยชนะ
นอกจากนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยองยังมีมาตรการการคัดกรองเชิงรุกในกลุ่มเป้าหมายในสถานบันเทิง สถานประกอบการ ตลาดสด สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แรงงานต่างด้าว และอื่นๆ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าระยองปลอดภัยยิ่งขึ้นต่อไป
