วันที่ 14 มีนาคม เวลา 15.00 นาฬิกา ดาบตำรวจอำนวย บำรุงวงศ์ ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปรามสถานีตำรวจภูธรมืองระยอง ประจำตู้ยามนาตาขวัญ ได้รับ แจ้งว่ามีคนร้ายกำลังเข้าไปลักขโมยข้าวของและเครื่องไฟฟ้า ในบริเวณรั้วบ้าน ขอให้รีบไปจับคนร้ายด้วย หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปพร้อมกับ ร้อยตำรวจโท สมศักดิ์ บุญญาภา รองสารวัตรปัองกันและปราบปรามสถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง และ นางสาวพัชริน ประดับ ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมด้วยอาสาตำรวจบ้านจำนวนหนึ่ง
เมื่อไปถึงพบรถจักรยานยนต์มีพ่วงข้างจอดอยู่หน้าประตูทางเข้า และพบผู้ต้องหากำลังขนของอยู่ในพื้นที่ซึ่งเคยเปิดเป็นร้านขายของเก่า ของนายพรศักดิ์ ผู้แจ้ง เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวพร้อมด้วยของกลาง ตะแกรงเหล็ก จำนวน 3 อัน พัดลมช่าง เครื่องตัดกระเบื้อง เครื่องมือช่างหลายชิ้น เช่นฆ้อน โซ่ แผ่นเหล็ก ตะแกรงพ่วงข้างรถจักรยานยนต์จึงควบคุมตัวมาที่ตู้ยามนาตาขวัญ และตรวจปัสสาวะ พบฉี่สีม่วง
นายพิสิทธุ์ ผู้ต้องหารับสารภาพว่านำรถจักรยานยนต์ของภรรยา มาก่อเหตุลักของในพื้นที่ดังกล่าว เพราะต้องการเงินไปซื้อยาให้ลูกสาวอายุ 3 ขวบครึ่งที่กำลังป่วยรักษาตัวด้วยอาการหอบหืดอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งปกติจะทำงานตัดไม้กับพ่อตา แต่ช่วงนี้ ไม่มีงาน ภรรยาก็ทำงานรับจ้างที่โรงงานขนมจีน รายได้ไม่เพียงพอจึงต้องมาลักของไปขายเพื่อนำเงินไปซื้อยารักษาลูก ส่วนที่เสพยาบ้า เพราะความเครียด
ด้านนาย ผู้เสียหาย บอกว่า ที่เกิดเหตุเคยเปิดเป็นร้านขายของเก่า แต่ปัจจุบันได้ปิดไป จึงไม่มีใครอยู่เฝ้า ที่ผ่านมาของในร้านเคยหายบ่อยครั้ง โดยเฉพาะสายไฟคนร้ายมักจะเข้ามาลักเอาสายไฟไปจนหมด ซึ่งครั้งนี้ตนเองได้ขับรถผ่านไปเห็นประตูรั้วเปิดและมีรถจักรยานยนต์จอดผิดสังเกต จึงย่องไปแอบดู เห็นผู้ต้องหากำลังขนข้าวของ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจตู้ยามนาตาขวัญ หลังรับแจ้งไม่นาน ตำรวจก็รีบมาและช่วยกันล้อมจับได้อย่างทันควันจึงขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ ตำรวจและอาสาสมัครที่ช่วยกันจับคนร้ายได้ เพราะที่ผ่านมาก็เคยจับได้มาแล้วหลายครั้งเช่นกัน นำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางส่งร.ต.อ.เลิศศักดิ์ วังคีรี รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป……
