X

2 ห้างดังจับมือไปรษณีย์นครพนม เปิดขายลิ้นจี่ GI ล่วงหน้าช่วยเกษตรกรในพื้นที่

2 ห้างดังจับมือไปรษณีย์นครพนม  เปิดขายลิ้นจี่ GI ล่วงหน้าช่วยเกษตรกรในพื้นที่ ลือคล้ายเป็นชานหมากศักดิ์สิทธิ์หลวงปู่จันทร์ ต้นแม่พันธุ์ยังยืนต้นอยู่ ผ่านมาถึง 75 ปี

วันที่ 29 มีนาคม 2565 ณ บ้านนาโดน ต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นแหล่งปลูกลิ้นจี่ชื่อดังของจังหวัด นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานในการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การซื้อลิ้นจี่นครพนม สายพันธุ์ นพ.1 ระหว่างตัวแทนวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ลิ้นจี่ นพ.1 กับตัวแทนบริษัทไปรษณีย์ไทย โดยไปรษณีย์จังหวัดนครพนม บริษัทสยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) และบริษัทเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด หรือ (Tops Market) ที่คณะทำงานด้านการตลาดระดับจังหวัด (เซลล์แมนจังหวัดนครพนม) จัดขึ้น เพื่อหาช่องทางการตลาดให้แก่กลุ่มเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ผู้ปลูกลิ้นจี่  ให้มีช่องทางการตลาดนอกเหนือจากช่องทางการจำหน่ายตามปกติที่ผ่านพ่อค้าคนกลาง รวมถึงเป็นการสร้างความมั่นใจด้านการตลาดแก่เกษตรกรผู้ปลูกภายใต้ยุทธศาสตร์ ตลาดนำการผลิต ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาจังหวัดนครพนมและนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในจังหวัด โดยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่

โดยลิ้นจี่พันธุ์ นพ.1 หรือ นครพนม 1 เป็นลิ้นจี่ที่มีลักษณะเด่นเฉพาะตัว คือ มีผลใหญ่ เนื้อแห้งไม่เละ มีรสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย ไม่มีรสฝาด ทําให้เป็นที่นิยมรับประทานของประชาชนทั่วไปทั้งในและต่างประเทศ  เป็นผลไม้ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ (Geographical Indications หรือ GI) มาตั้งแต่ปี 2560  ซึ่งในแต่ละปีจะมีผลผลิตเริ่มออกมาให้ประชาชนได้รับประทานในช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม

ในปี 2565 นี้ จังหวัดนครพนมมีสภาพอากาศที่เหมาะสมทำให้ผลผลิตลิ้นจี่ติดดอกออกผลมากกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 10-15 % คาดว่าจะมีผลผลิตออกจำหน่ายถึง 3 รุ่นด้วยกัน ดังนั้นคณะทำงานด้านการตลาดระดับจังหวัด (เซลล์แมนจังหวัดนครพนม) จึงได้ประสาน 3 บริษัท เพื่อร่วมกันจำหน่ายลิ้นจี่ นพ.1 ในครั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ให้มีช่องทางการตลาดที่เพิ่มมากขึ้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแก้ปัญหาล่วงหน้าในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ที่อาจส่งผลกระทบต่อการจำหน่ายผลผลิตที่มี ทั้งเป็นการสร้างความมั่นใจให้เกษตรกร ว่าจะสามารถจำหน่ายได้อย่างต่อเนื่องตลอดฤดูกาล เพราะเป็นการตกลงล่วงหน้าก่อนผลผลิตจะออกสู่ตลาด

โดยบริษัทไปรษณีย์ไทย สาขาจังหวัดนครพนม จะรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 80 บาท จำนวน 8 ตัน ขณะที่บริษัทสยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) จะรับซื้อจำนวน 400 ตัน ส่วนบริษัท Tops Market จะรับซื้อไปเรื่อย ๆ ในปริมาณที่จำหน่ายได้ ซึ่งทางบริษัทมีนโยบายไม่กดราคาสินค้าของเกษตรกร แต่ขอให้เป็นราคาเดียวกับที่เกษตรกรจำหน่ายให้กลุ่มอื่น ๆ  โดยในการจัดส่งจะมีการแจ้งล่วงหน้าถึงจำนวนและปริมาณที่บริษัทต้องการเป็นรอบ ๆ ทั้งนี้ในบันทึกข้อตกลงจะเป็นการรับซื้อขนาดผลลิ้นจี่ 25 – 30 ผลต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นมาตรฐานสินค้าลิ้นจี่ GI  ส่วนราคาซื้อ – ขาย จะเป็นไปตามปริมาณและคุณภาพที่ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกันอีกครั้ง โดยจะเริ่มส่งผลผลิตครั้งแรกในวันที่ 10 เมษายน 2565 นี้

ว่ากันว่าปี พ.ศ.2490 มีคนทางภาคกลางนำลิ้นจี่มาถวายหลวงปู่จันทร์ เขมิโย เกจิอาจารย์ชื่อดัง อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีเทพประดิษฐานราม เขตเทศบาลเมืองนครพนม ท่านฉันแล้วชมว่ารสชาติอร่อยดีจึงมอบเมล็ดให้แก่นายวีระ(ขณะนั้นเป็นสามเณร) นำไปปลูกที่บ้านนาโดน ต.ขามเฒ่า คนโบราณร่ำลือกันว่าชานหมากพระภิกษุที่เคร่งครัดพระธรรมวินัยจะมีความศักดิ์สิทธิ์นัก แม้โอกาสที่ลิ้นจี่กลายพันธุ์จะมีน้อยก็ตาม ปรากฏว่าต้นลิ้นจี่โตวันโตคืนบวกกับภูมิอากาศที่หนาว ทำให้ลิ้นจี่มีรสหวานกลายเป็นพันธุ์พื้นเมือง ปัจจุบันต้นแม่พันธุ์ยังยืนต้นอยู่ มีอายุถึง 75 ปีแล้ว และยังให้ผลผลิตสม่ำเสมอ

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน