ชัยภูมิ – เพราะลูกค้าตั้งเครื่องซักอบเร่งไฟแรงเกินไป!! ความคืบหน้าเกิดเหตุไฟไหม้ภายในเครื่องซักผ้าแบบเปิดหน้าขณะทำงานอยู่ ทั้งเครื่องซักผ้าและเสื้อผ้าของลูกค้าที่กำลังซักอยู่ได้รับความเสียหาย เจ้าของร้านเผย ตรวจสอบสาเหตุล่าสุดแล้ว เพราะผู้นำผ้ามาซักแล้วนำมาเข้าเครื่องปั่นอบแห้ง ตั้งระบบใช้ไฟแรงเกินไปเอง ไม่เกี่ยวไฟแช็คคาในเสื้อผ้า ซึ่งสำหรับผ้าที่นำเข้าเครื่องปั่นอบแห้ง ที่ใช้แก๊สทำความร้อนเกิดความร้อนจัดเกินขณะปั่นผ้า จึงทำให้เกิดไฟลุกไหม้เครื่องได้ ทั้งเจ้าร้านและผู้ที่นำผ้ามาซักตกลงกันได้แล้ว พร้อมไม่ติดใจเอาความกัน ซึ่งเครื่องซักอบผ้าที่พังไปอยู่ในระยะประกัน ทางร้านจึงได้แจ้งให้ทางบริษัทเครื่องปั่นอบแห้ง นำเครื่องมาเปลี่ยนใหม่ให้แล้ว!
( 9 ก.ย.64 ) จากกรณีมีการแชร์คลิปว่อนไปทั่วในโลกโซเชียลขณะนี้ หลังเกิดเหตุไฟไหม้เครื่องซักผ้าเกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.30น.วันนี้ (8 ก.ย.ที่ผ่านมา) ภายในร้านซักผ้าหยอดเหรียญ อ๊อตเทริ วอช แอนด์ ดราย 356 ถนนบูรพา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ โดยในคลิป เป็นภาพที่ผู้มาใช้บริการซักผ้าหยอดเหรียญได้เปิดเครื่องทำงาน เมื่อเครื่องซักผ้าทำงานได้ซักครู่ ได้เกิดเสียงดังระเบิดขึ้นภายในเครื่องซักผ้าที่กำลังทำงาน แล้วได้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นที่บริเวณภายในตู้ซักและอบผ้าของเครื่องซักผ้า ขณะนั้นได้มีหญิงและเด็กอยู่ใกล้เครื่องซักผ้า หญิงได้รีบดึงแขนเด็กออกจากด้านหน้าเครื่องซักผ้าทันที ไม่นานได้มีชายนำถังดับเพลิงมารีบฉีดสารเคมีดับไฟ หลังจากไฟดับลง ตรวจสอบพบว่าเครื่องซักผ้าที่ไฟไหม้เป็นเครื่องอบผ้าขนาด 15 กิโลกรัม
หลังจากที่ทั้งเจ้าของร้าน และผู้มาใช้บริการเครื่องซักผ้า คาดว่าน่าจะเป็นการลืมไฟแช็คไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้าเอง จนเกิดไฟไหม้ในเครื่องซักผ้าครั้งนี้
ซึ่งล่าสุดทางเจ้าหน้าที่มาช่วยตรวจสอบ หาสาเหตุยืนยันที่แน่ชัดอีกครั้งแล้ว ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่ร้านซักผ้าหยอดเหรียญ อ๊อตเทริ วอช แอนด์ ดราย ได้พบกับนางรัตนาพรรณ มณีพันธ์ อายุ 55 ปี เจ้าของร้าน และนายพนมกร วรรณทอง พนักงานผู้ดูแลลูกค้าของร้าน ได้นำไปตรวจสอบเครื่องซักผ้าภายในร้านที่มีด้วยกัน 7 เครื่อง ส่วนเครื่องปั่นอบแห้งมี 6 เครื่อง ราคาเครื่องละ 2 แสน 5 หมื่นบาท ( 250,000 บาท) ใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิงในการทำความร้อนแล้วเป่าลมร้อนให้กับผ้าที่นำเข้าเครื่องอบแห้ง ซึ่งในวันนี้หลังเกิดเหตุทางร้านยังเปิดให้บริการรับซักผ้ากับลูกค้าตามปกติ เพียงแต่ปิดเฉพาะเครื่องปั่นอบแห้งผ้าขนาด 15 ก.ก.เครื่องที่เกิดไฟไหม้เท่านั้น นายพนมกร วรรณทอง พนักงานผู้ดูแลลูกค้าของร้าน หลังเกิดไฟไหม้เครื่องปั่นผ้าอบแห้งแล้ว ได้มีตรวจสอบเครื่องที่เกิดไฟไหม้เครื่อง เพราะเครื่องของร้านเป็นระบบใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิงทำความร้อนให้กับเครื่องอบ
และสาเหตุไฟไหม้ครั้งนี้เป็นเพราะลูกค้าใช้ผ้าผิดประเภทมาซักอบ และมีการเร่งความร้อนให้กับเครื่องมากเกินไป ซึ่งผู้ที่นำผ้ามาซักแล้วนำเข้าเครื่องปั่นอบ เป็นผ้าแบบที่มีส่วนผสมของใยพลาสติก หรือเป็นผ้าโทเร เมื่อปรับอุณหภูมิสูงเกินไป ไม่ตรงกับชนิดของผ้าที่นำเข้าเครื่องอบ ทำให้เกิดความร้อนสูงมากขณะเครื่องปั่นอบแห้งกำลังทำงาน จึงทำให้เกิดไฟลุกไหม้ผ้าขึ้นมา ซึ่งต่อไปทางร้านจะมีการจัดเจ้าหน้าที่มาคอยให้ความรู้กับลูกค้าที่นำผ้ามาซัก มาปั่นอบแห้งมากกว่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก
รวมถึงนางรัตนาพรรณ มณีพันธ์ อายุ 55 ปี เจ้าของร้าน บอกว่า จากการสอบถามลูกค้าที่นำผ้ามาซักเมื่อคืน และเกิดไฟลุกไหม้เครื่องปั่นอบแห้ง ทราบว่าผ้าที่นำเข้าเครื่องอบ มีทั้งชุดกีฬา และเสื้อผ้าหลายชนิดรวมกันเข้าเครื่องปั่นอบแห้ง ซึ่งน่ามาจากลูกค้าปรับอุณหภูมิร้อนเกินไปจึงเกิดไฟไหม้ ซึ่งไม่ใช่ลืมไฟแช็ค ดังที่พากันเข้าใจในตอนแรก และเมื่อเครื่องปั่นอบแห้งทำงาน เกิดความร้อนสูงจึงทำให้เกิดไฟลุกไหม้ผ้าขึ้นมาได้ครั้งนี้
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งเจ้าของร้าน และลูกค้าที่นำผ้ามาซัก ปั่นอบแห้ง ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายก็ได้ตกลงไม่ติดใจเอาความกันแล้ว ซึ่งเครื่องอยู่ในระยะประกัน เจ้าของร้านจึงได้แจ้งให้ทางบริษัทเครื่องปั่นอบแห้ง นำเครื่องมาใหม่มาเปลี่ยนแทนเพื่อตั้งบริการลูกค้าในร้านได้ต่อไป
