นราธิวาส-ผู้ต้องสงสัยฆ่า 2 แม่ลูกยอมเปิดปากลงมือสังหารโหดคนเดียว
รายงานข่าวความคืบหน้าหลังจากที่พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ ผกก.สส.ภ.จว.นราธิวาส ได้ร่วมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีสาคร และเจ้าหน้าที่ทหารพราน ชุดเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 ได้สนธิกำลังใช้กฎอัยการศึกจับกุมตัวนายการียา ฮะมะ ที่บ้านพักเลขที่ 191 ม.6 ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส แล้วควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลที่ศูนย์ซักถามกรมทหารพรานที่ 46 อ.เมือง จ.นราธิวาส ในฐานะผู้ต้องสงสัยก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองยิง น.ส.อามีเนาะ สาแม อายุ 42 ปี และ น.ส.พารีซา แวเฮง อายุ 23 ปี 2 แม่ลูก อยู่บ้านเลขที่ 67/4 ม.6 ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เสียชีวิต ภายในสวนยางบ้านไอร์กาแซ ม.6 ต.ศรีสาคร ขณะขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กข 4199 นราธิวาส และพกเงินสด จำนวน 1 ล้านบาท เพื่อไปซื้อทองคำร่อน เหตุเกิดเมื่อเวลา 15.10 น. ของวันที่ 17 ม.ค. 64 ที่ผ่านมา ที่ให้การรับสารภาพซักทอดถึงคนร้ายอีก 3 คน เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ โดยตนทำหน้าที่เพียงโทรศัพท์ไปหาผู้เสียชีวิต เพื่อลวงมาให้คนร้าย 3 คน ที่หลบหนีใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิต
ซึ่งการให้คำรับสารภาพของนายการียาเมื่อวานที่ผ่านมา ได้นำไปสู่ให้เจ้าหน้าที่นำตัวไปตรวจค้นบ้านพัก และสามารถยึดอาวุธปืนลูกซองและอาวุธปืนพกสั้นได้ จำนวน 3 กระบอก พร้อมเสื้อผ้าที่สวมใส่วันก่อเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อว่าจะมีคนร้ายอีก 3 คน ที่นายการียา ซักทอดว่าเป็นผู้ทำหน้าที่ใช้อาวุธปืนลูกซองยิง 2 แม่ลูกเสียชีวิต เนื่องจากนายการียา ให้การวกวนแบบและมีพิรุธทางสีหน้าที่แสดงออกถึงความผิดปกติ เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามถึงคนร้าย จำนวน 3 คน ที่ลงมือสังหารโหด 2 แม่ลูก นายการียากลับให้การปฏิเสธว่าไม่รู้จักทั้งที่ก่อนหน้านี้ ให้การซัดทอดว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุ ที่นายการียา ได้โทรศัพท์ลวง 2 แม่ลูก ให้ 3 คนร้ายที่หลบหนีเป็นคนลงมือสังหาร
ด้านแหล่งข่าวชุดคลี่คลายคดีรายหนึ่ง ได้เปิดเผยความคืบหน้าเหตุดังกล่าว จากการใช้จิตวิทยาหว่านล้อมกดดันทั้งปลอบทั้งขู่ในการสอบสวนปากคำนายการียา ผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในคดีสังหารโหด 2 แม่ลูก ล่าสุด นายการียา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองยิง 2 แม่ลูกเพียงคนเดียว โดยก่อนวันก่อเหตุนายการียา ได้วางแผนนำก้อนหินจำนวน 1 ก้อน มาทำความสะอาดตกแต่งพ่นสีให้เหลืองอร่ามเหมือนทองคำ โดยชั้นนอกสุดของก้อนหินจะนำแผ่นทองคำเปลวมาปิดทับ ให้ดูเสมือนก้อนทองคำที่ได้จากการร่อน หลังจากนั้นนายการียา ได้วางแผนด้วยการใช้โทรศัพท์มือถือโทรไปหา น.ส.อามีเนาะ ว่านายการียา มีทองคำร่อนที่จะขายให้ และเมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามว่าแล้วมือถือของ น.ส.อามีเนาะ นายการียาทราบอย่างไร นายการียา บอกว่า น.ส.อามีเนาะ นอกจากจะประกอบอาชีพลงหุ้นซื้อทองคำร่อนจากชาวบ้านแล้ว ก็จะมีอาชีพในการรับซื้อเศษขี้ยางและลูกสะตอ ในหมู่บ้านส่วนใหญ่จะมีเบอร์โทรศัพท์มือถือของ น.ส.อามีเนาะ ที่ชาวบ้านสวนใหญ่จะนำขี้ยางและสะตอไปขายให้เป็นประจำอยู่แล้ว
นอกจากนี้แหล่งข่าวชุดคลี่คลายคดีรายเดียวกันยังได้เปิดเผยเพิ่มเติมอีกด้วยว่า หลังจากนั้น นายการียา ได้โทรศัพท์หา น.ส.อามีเนาะ เพื่อนัดสถานที่ที่จะซื้อขายทองคำ โดยนายการียา นัด น.ส.อามีเนาะ ไปพบยังบริเวณถนนหน้าสวนยางพาราจุดเกิดเหตุ เมื่อ น.ส.อามีเนาะ มาถึงที่นัดหมายนายการียา ได้นำก้อนหินที่อุปโลกน์ว่าเป็นทองคำให้ น.ส.อามีเนาะ ดู และ น.ส.อามีเนาะ จับได้ว่าเป็นก้อนทองคำปลอม นายการียา จึงได้ใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นที่เหน็บเอวมา ขู่บังคับ 2 แม่ลูกเดินเข้าไปในป่าสวนยางพารา ห่างจากถนนประมาณ 200 เมตร แล้วใช้อาวุธปืนขู่บังคับ 2 แม่ลูกให้นั่งคุกเข่ารวมกัน ก่อนใช้อาวุธปืนลูกซองที่อยู่ในมือยิงใส่ 2 แม่ลูกจนเสียชีวิต แล้วตนจึงได้ขโมยเงินสดที่นัดแนะซื้อทองคำร่อน จำนวน 1 ล้านบาท พร้อมโทรศัพท์มือถือ ของ น.ส.อามีเนาะ หลบหนีไป โดยนายการียา หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปอาศัยอยู่บ้านพัก พร้อมได้เปิดกระเป๋าที่บรรจุเงินสด แล้วนำเงินสดไปใส่ไว้ในถุงพลาสติกสีดำของ น.ส.อามีเนาะ ไปฝังไว้ที่แหล่งน้ำหลังสวนยางของบ้านพัก แล้วนำโทรศัพท์มือของ น.ส.อามีเนาะ ไปฝังไว้บริเวณใต้โคนต้นยางพาราข้างบ้านพัก และอยู่บ้านฟังความเคลื่อนไหวข่าว 2 แม่ลูกที่ถูกยิงเสียชีวิต ว่าชาวบ้านได้กล่าววิพากษ์วิจารณ์อย่างไรเกี่ยวกับคนร้ายที่ก่อเหตุ จนให้หลัง 2 วัน ถูกเจ้าหน้าที่บุกควบคุมตัวที่บ้านพัก
แต่ถึงอย่างไรก็ตามหลังจากนายกียา ฮะมะ ผู้ต้องสงสัยในคดีดังกล่าวให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริงเพียงคนเดียว เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายการียา ไปทำการตรวจยึดหลักฐานของกลางที่บ้านพักอีกครั้งในช่วงใกล้ค่ำของวานนี้ ด้วยการชี้จุดที่ฝังเงินสด จำนวน 1 ล้านบาทและโทรศัพท์มือถือ ที่ฝังกันไว้โคนต้นยางพารา ก่อนที่จะนำตัวกลับมาควบคุมที่ศูนย์ซักถามกรมทหารพรานที่ 46 เพื่อทำสำนวนเรียบเรียงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในการใช้ประกอบเป็นหลักฐานส่งศาล จ.นราธิวาส เพื่ออกหมายจับนายการียาต่อไป
