พาณิชย์อุทัยธานีคุมเข้ม ออกตรวจสอบสถานการณ์สินค้าและหน้ากากอนามัย หวั่นฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19
วันที่22 ธ.ค. 63 เวลา 07.00 น. นายชัยรัตน์ บุญส่ง พาณิชย์จังหวัดอุทัยธานี พร้อมผู้อำนวยการกลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า และเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุทัยธานี ได้ออกตรวจสอบสถานการณ์สินค้าบริเวณตลาดสดเทศบาลเมืองอุทัยธานี เพื่อติดตามสถานการณ์การค้า หลังข่าวการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งกระแสข่าวดังกล่าว อาจทำให้ประชาชนตื่นตระหนก และออกมาหาซื้อสินค้าเพื่อกักตุนไว้ อาจส่งผลให้ผู้ประกอบการบางราย ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าได้่ ซึ่งจากการตรวจสอบในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี ภาวะการค้ายังเป็นไปตามปกติ ยังไม่มีผู้ประกอบการที่มีพฤติกรรมฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าแต่อย่างใด
นายชัยรัตน์ บุญส่ง เผยว่า ถึงอย่างไรก็ดี สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุทัยธานีจะได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ออกติดตามตรวจสอบสถานการณ์สินค้าเป็นประจำทุกวันอย่างใกล้ชิด หากพบการกระทำความผิด หรือมีผู้ประกอบการฉวยโอกาสกักตุนหรือขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุผลอันควร จะดำเนินการตามกฏหมายโดยเคร่งคัดต่อไป ซึ่ง นอกจากการติดตามสถานการณ์สินค้าโดยทั่วไปแล้ว สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุทัยธานี ยังได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 เพื่อไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในสถานการณ์เช่นนี้ ซึ่งหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ได้มีประกาศฯ กำหนดราคาจำหน่ายไว้ ไม่เกิน 2.50 บาท และให้มีการปิดป้ายแสดงราคาที่ชัดเจนไว้ด้วย
หากผู้บริโภคพบเห็นการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้า สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุทัยธานี จะได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบโดยเร่งด่วน หากพบการกระทำความผิด จะได้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งหากจงใจทำให้ราคาสินค้าสูงเกินสมควร จะมีโทษตาม ม.29 แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากจำหน่ายหน้ากากอนามัยสูงกว่าที่กำหนดไว้ ชิ้นละ 2.50 บาท มีโทษตาม ม.25 แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
