อุดรธานี – ความคืบหน้ากรณีลูกหนี้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากนายทุนดอกเบี้ยโหด ตำรวจยังคงเดินหน้าสอบสวน และปราบปรามผู้กระทำผิดอย่างต่อเนื่อง
ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ จากการกู้ยืมเงินโดยสัญญาที่ไม่เป็นธรรม กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี และ ที่ห้องประชุม ชั้น 4 สภ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รอง ผบช.ภ.4 เดินทางติดตามความคืบหน้า การสอบปากคำบรรดาลูกหนี้ของนายทุนดอกเบี้ยโหด ในเขต จ.อุดรธานี หลังจากที่เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการนำหมายจับไปแล้ว 12 ราย ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ประกอบธุรกิจให้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปลอมเอกสารสิทธิ์” โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีลูกหนี้จำนวนมากทยอยเดินทางมาแจ้งความและให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน มีเจ้าหนี้ นายทุนหลายคนที่ยอมเข้าเจรจาไกล่เกลี่ย มีการคืนโฉนดที่ดินและเอกสารสิทธิ์กันไปแล้วถึง 84 ราย โดยมีลูกหนี้เข้าแจ้งความกว่า 130 ราย
พล.ต.ต.บุญลือฯ เปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายของรัฐบาล เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ได้ดำเนินการกับนายทุนรายใหญ่ที่มีพฤติการณ์ค่อนข้างเอาเปรียบ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างลูกหนี้กับนายทุน ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีจากนายทุนหลายราย ส่วนนายทุนที่ถูกออกหมายจับ แต่ไปต่างประเทศ ขณะนี้กลับมาแล้ว ได้มามอบตัวกับตำรวจทั้ง 2 คน และยอมเข้าสู่กระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ส่วนการช่วยเหลือลูกหนี้ที่กู้ยืมเงินโดยสัญญาที่ไม่เป็นธรรม กำลังดำเนินการในทุกจังหวัดทั่วประเทศ แต่ตำรวจภาค 4 ได้เริ่มยุทธการก่อน นำไปสู่การเป็นโมเดล ช่วยเหลือลูกหนี้ที่สัญญาไม่เป็นธรรม หากมี่มาแจ้งความเพิ่มอีกก็จะเข้าตรวจค้น ออกหมายจับเพิ่มเติม และเข้าสู่การเจรจาไกล่เกลี่ยอีก
ข่าวน่าสนใจ:
นายทุนรายหนึ่งที่เดินทางมาไกล่เกลี่ย บอกว่า มีลูกหนี้ประมาณ 100 ราย ที่ผ่านมามีนายหน้าที่ทราบก็ไปติดป้ายประกาศกันเอง และมาขอเงินเปอร์เซ็นต์ค่านายหน้าที่หาลูกค้ามาให้ ซึ่งหลังเจรจาไกล่เกลี่ย ตกลงกับลูกหนี้ได้ จะคืนโฉนดที่ดินให้ และเมื่อจบเรื่อง จะเลิกอาชีพปล่อยเงินกู้โดยเด็ดขาด
สำหรับนายทุนที่ถูกออกหมายจับและถูกจับ รวม 12 รายนั้น ส่วนใหญ่ได้มาเจรจาไกล่เกลี่ยกับลูกหนี้ มีเพียงนายทุนของ อ.หนองหาน ที่เป็นรายใหญ่ มีลูกหนี้จำนวนมาก ไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการ ไม่ให้ความร่วมมือกับตำรวจและลูกหนี้ ซึ่งทางพนักงานสอบสวน จะตรวจยึดเอกสารและทรัพย์สิน ส่งให้ทาง ปปง.ดำเนินการ เพื่อเรียกนายทุนรายนี้มาชี้แจง ที่มาที่ไปของทรัพย์สินต่าง ๆ หากไม่มาให้ปากคำ ก็จะทำการยึดทรัพย์ตามมาตรการของ ปปง.ต่อไป
ที่มา – โฮมเคเบิลอุดร , ข่าวอุดร
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: