“พีระพันธ์” ทิ้งประชาธิปัตย์แล้ว พ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วย

“พีระพันธ์” ทิ้งประชาธิปัตย์แล้ว พ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วยข่าววงในว่าจะไปพลังประชารัฐ ช่วยงานรัฐบาล

นึกแล้วว่า พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาวิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์รุนแรง ไม่น่าจะอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ต่อ น่าจะลาออกตามหมอวรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก และคู่ชิงหัวหน้าพรรคไปแน่ๆ

พีระพันธ์ ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แล้วในวันนี้ (9 ธ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยไม่ได้ระบุเหตุผลของการลาออก

ทั้งนี้ พีระพันธุ์ได้แจ้งต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค และนายวิรัช ร่มเย็น นายทะเบียนพรรค ให้รับทราบแล้ว สำหรับกรณีของพีระพันธุ์ถือเป็นรายล่าสุดต่อจาก หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก ที่ย้ายไปสังกัดพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.)

อย่างไรก็ตามสำหรับพีระพันธ์ยังไม่ชัดเจนว่าเมื่อลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์แล้วจะไปอยู่พรรคไหน จะตามหมอวรงค์ไปอยู่พรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่มีสุเทพเทือกสุบรรณ เป็นแกนนำหลักอยู่

ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พีระพันธุ์ได้ส่งคนขับรถกระบะมาขนของใช้ส่วนตัวต่างๆในห้องทำงานที่ชั้น 1 อาคาร 100 ปี ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ภายในพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นห้องที่พีระพันธุ์ใช้เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรค กระทั่งพ้นจากตำแหน่งแล้ว ได้ปิดล็อกห้องนี้ ไม่มีใครเข้าไปใช้งานแทน

สำหรับกรณีที่พีระพันธุ์ลาออกครั้งนี้ทำให้หลายคนในพรรคเกิดความประหลาดใจ และการที่ไปยื่นใบลาออกต่อกกต.ด้วยนั้น ทำให้พรรคไม่สามารถยับยั้งเรื่องเอาไว้ได้ อย่างไรก็ตามคาดว่าหลังจากนี้ พีระพันธุ์จะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อไปช่วยงานของรัฐบาล โดยยังไม่มีความชัดเจนว่าจะได้รับตำแหน่งใด

“การลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้คิดจะย้ายไปอยู่กับพรรคการเมืองใดหรือย้ายไปพรรครัฐบาล ตอนนี้ขอพักผ่อนก่อน ส่วนอนาตตทางการเมืองนั้น ค่อยว่ากันอีกครั้ง” พีระพันธ์ กล่าว

ช่วงลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค พีระพันธ์ ย้ำชัดเมื่อถูกถามว่า ถ้าแพ้จะยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ โดยพีระพันธ์ ยืนยันว่าจะยังคงอยู่กับประชาธิปัตย์

การลาออกของพีระพันธุ์ ทำให้สภาพความเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อของพีระพันธุ์สิ้นสุดด้วยลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (8) ที่บัญญัติว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง เมื่อลาออกจากพรรคการเมืองที่ตัวเองเป็นสมาชิก สำหรับผู้ที่ได้เลื่อนลำดับมาเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อแทนพีระพันธุ์ คือน.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาตกุล ซึ่งปัจจุบันเป็นคณะทำงานของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร

ยังไม่รู้ว่า หลังจากนี้จะมีแกนนำพรรคคนไหนลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์อีกหรือไม่ แต่ที่ผ่านมามีหลายคนลาออกไปแล้ว คนล่าสุด น่าจะเป็น “อุเทน ชาติภิญโญ” ที่เข้ามาประชาธิปัตย์ไม่นาน ก็ลาออกไปเปิดตัวลงชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. แต่กล่าวสำหรับอุเทน ถือว่าไม่ใช่สายเลือดแท้ของพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนหน้านี้อยู่กับทักษิณ ชินวัตร และช่วยงานยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ช่วงน้ำท่วมใหญ่ ปี 2554 ด้วยซ้ำ

แต่สำหรับหมอวรงค์ และพีระพันธ์ ถือว่าเป็นสายเลือดพันธุ์แท้ของพรรคประชาธิปัตย์ เกิดทางการเมืองในนามพรรคประชาธิปัตย์ และวันนี้เขาก็โบกมือลา ถีบหัวเรือประชาธิปัตย์ไปแล้ว

กล่าวสำหรับพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ยังต้องอาศัยเวลาอีกพอสมควรในการสานรอยร้าวอันเกิดจากการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค สองครั้งล่าสุด ทั้งระหว่างอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับหมอวรงค์ เดชกิจวิกรม และล่าสุดที่มีทั้งจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค และกรณ์ จาติกวณิชย์ ลงชิงเก้าอี้ และจุรินทร์ ก็ชนะโหวตนั่งกุมบังเหียนพรรคประชาธิปัตย์ และกำลังเป็นกัปตันนำเรือประชาธิปัตย์ฝ่าคลื่นลมแรงอยู่กลางมหาสมุทร

ประชาธิปัตย์พรรคเก่าแก่ที่สุด มีหลักการ และกติกามากที่ถือว่าเป็นสถาบันผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก เคยตกต่ำถึงขีดสุด ได้ ส.ส.กรุงเทพมหานครมาเพียงคนเดียว ชื่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่เลือกตั้ง 20 มีนาคม 2562 ครั้งที่ผ่านมา ประชาธิปัตย์สูญพันธุ์จากสนามเมืองหลวง นับจากนี้ไปประชาธิปัตย์ต้องเร่งมือฟื้นศรัทธาจากประชาชนกลับมาให้ได้ด้วยผลงานเท่านั้นที่จะเป็นตัวชี้วัด ไม่งั้นสูญพันธุ์แน่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ด้วยความเคารพ
นายหัวไทร
9 ธันวาคม 2562